ประกาศจากมูลนิธิเกษตราธิการ
เรื่อง ขยายระยะเวลาการเปิดรับข้อเสนอ งานจ้างดําเนินการจัดฝึกอบรมหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 3 โดยผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดรายละเอียดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
ด้วยมูลนิธิเกษตราธิการมีความประสงค์จะจ้างจัดอบรมหลักสูตรวิทยาการเกษตร ระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 3 โดยผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดรายละเอียดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปิดการฝึกอบรมหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 2 ผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรชั้นนำร่วมการฝึกอบรมคับคั่ง มุ่งเน้นการเชื่อมโยงความรู้และสร้างเครือข่ายความร่วมมือรัฐ–เอกชนเพื่อขับเคลื่อนงานพัฒนาและส่งเสริมภาคการเกษตรอย่างเป็นระบบ
หลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 2 โดยหลักสูตร วกส. จัดทำขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มูลนิธิเกษตราธิการ และสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผู้บริหารระดับสูงด้านการเกษตร บุคลากรด้านการวิจัยการเกษตร ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร เพื่อยกระดับภาคการเกษตรไทยให้เป็นผู้นำด้วยวิทยาการ เทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่ ภายใต้หลักการตลาดนำการผลิตและเศรษฐกิจพอเพียงและก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ วิสัยทัศน์ระหว่างผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
สำหรับพิธีปิดการฝึกอบรมหลักสูตร วกส. รุ่นที่ 2 ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับเกียรติจาก ดร.จรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตร และกล่าวปัจฉิมโอวาทในโอกาสพิธีปิดหลักสูตร วิทยาการระดับสูง วกส. รุ่นที่ 2 และนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรม หลักสูตร วกส. รุ่นที่ 2 โดยมีคณะกรรมการอำนวยการและคณะกรรมการบริหารหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง และผู้บริหารของกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธี อาทิเช่น อธิบดีกรมวิชาการเกษตร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ รองอธิบดีกรมหม่อนไหม รองอธิบดีกรมการข้าว รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ รองผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นต้น
โดยตลอดระยะเวลา 5 เดือน ที่ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมได้ร่วมกิจกรรมของหลักสูตร วกส. รุ่นที่ 2 และจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายที่เป็นประโยชน์การส่งเสริมและพัฒนาภาคการเกษตร ซึ่งเป็นผลงานทางวิชาการที่สำคัญที่เกิดจากความร่วมมือของผู้บริหารทุกภาคส่วน โดยหลักสูตร
ได้หลอมรวมองค์ความรู้ที่ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งเชื่อมโยงและสะท้อนให้ผู้เข้าร่วมการฝึกอบรม
ได้เห็นถึงโอกาส ปัญหา และข้อจำกัดของการพัฒนาภาคการเกษตรไทย สร้างการรับรู้และกระตุ้นให้เกิดการประสานความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหา และพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกรให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง
Cassroom สัปดาห์นี้เปลี่ยนบรรยาการศการอบรมหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.)รุ่นที่ 2 มาที่สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย
วันนี้ยังคงเปิดตัวกับ วกส. Talk ทั้งสองท่านที่จะมาเล่าประสบการณ์ของตนเองหรือสิ่งที่น่าสนใจในภาคการเกษตรให้เพื่อนๆได้ฟัง ซึ่งเป็นประโยชน์และให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ระหว่างผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อไปพัฒนาต่อในภาคการเกษตร
กับหัวข้อ
“แนวทางการส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยกองทุนร่วมลงทุน”
โดย วกส. Talk #1 : ดร.ณัฐพล ประดิษฐผลเลิศ (ตัวแทนกลุ่มมัจฉานุ)
กรรมการและกรรมการบริหาร
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
(SME D Bank)
และเรียนรู้ไปกับหัวข้อการบรรยาย
“วิสาหกิจฯ ปลูกกัญชากัญชงอย่างไรให้มีรายได้และประสบผลสำเร็จอย่างยั่งยืน”
กับ วกส. Talk #2 : คุณอรพินทร์ พญาพิทักษ์สกุล (ตัวแทนกลุ่มมังกร)
ประธานกรรมการบริหาร
บริษัท ทีเอชซีจี กรุ๊ป จำกัด
ในช่วงที่ 1 ของวันนี้ จะได้พบกับวิทยากรทั้งสองท่านที่จะมาให้ความรู้และเล่าประสบการณ์
นำโดยท่านแรก
คุณศศิน เฉลิมลาภ
ประธานกรรมการ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
มาในหัวข้อการบรรยาย
“Climate Change และการสูญพันธุ์ครั้งที่ 6 เรื่องใหญ่ ที่ใกล้กว่าที่คิด”
“ปี พ.ศ. 2504 การใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 1 เปลี่ยนแนวรอยต่อป่า 5 จังหวัด เป็นไร่มันสำปะหลังและข้าวโพด ก่อนหน้านั่นมีพื้นที่ป่า 70% ของประเทศ แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 32% (80% ในสัดส่วนนี้เป็นป่าที่อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติ) แต่ไม่ใช่ผืนป่าที่ต่อเนื่องกัน
การสร้างเขื่อนไม่ได้ใช้พื้นที่ป่ามาก แต่จุดที่ค้านเพราะบริเวณที่ทำเขื่อนเป็นป่าที่ราบ ซึ่งในประเทศไทยเหลือน้อยมากและเป็นป่าที่มีเสือโคร่งที่กำลังจะสูญพันธุ์ ขยายพันธุ์อยู่ จึงคัดค้านการสร้างเขื่อน”
และช่วงที่ 2
พบกับวิทยากรท่านต่อไปที่จะมาในหัวข้อการบรรยาย “การเงิน การคลัง และภาคการเกษตร”
คุณกรณ์ จาติกวณิช
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
มาในหัวข้อการบรรยาย
“กระทรวงการคลังมีการช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจผ่านหน่วยงานที่เป็น “อาวุธลับ” เป็นเครื่องมือเข้าถึงประชาชนในการช่วยเหลือแก้ปัญหาได้มากที่สุดคือ ธกส. เช่น การแก้หนี้นอกระบบ การประกันรายได้
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาล มีการเติมเงินกับการประกันรายได้ ควรจะเป็นโครงการที่ใช้ช่วงเปลี่ยนผ่านเท่านั้น แต่มีการทำงานยาวนานจนสร้างหนี้สินให้กับภาครัฐ และไม่ส่งผลให้เกษตรกรมีคุณภาพที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน
ทั้งนี้รัฐเองก็มีการเพิ่มเพดานวงเงิน ทำให้เกิดหนี้สะสม ซึ่งปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้….”
สำหรับหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 2 ครั้งนี้ ได้จัดกิจกรรมเรียนรู้ด้านการเกษตรและสานสัมพันธ์ (ACE Trip #2) ณ ประเทศญี่ปุ่น
ครั้งนี้จะได้เรียนรู้ร่วมกันกับวิทยากรพิเศษทั้ง 2 ท่าน
ท่านแรกกับหัวข้อบรรยาย
“ยุทธศาสตร์ทางด้านการเกษตร”
โดย โคอิจิโร อิง
รองผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการเกษตร ป่าไม้ และประมงจังหวัดฟูกูโอกะ
“จังหวัดฟูกูโอกะ เป็นจังหวัดที่ใกล้กับภูมิภาคเอเชียที่สุด เป็นเสมือน “ประตูสู่เอเซีย” มีภูมิอากาศแบบอบอุ่น มีพื้นที่ราบทำเกษตรกรรมได้ มีจุดแข็งคือ การมีตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ สินค้าเกษตรมีคุณภาพ สามารถสร้างรายได้ด้านเกษตรอยู่ในอันดับที่ 16 ของประเทศญี่ปุ่น”
สำหรับวิทยากรท่านที่ 2 กับหัวข้อบรรยาย
“โอกาสทางการค้าและการเกษตร”
โดย นายสกนธ์ วนาเศรษฐี
ที่ปรึกษา (ฝ่ายเกษตร) สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
“ความสัมพันธ์ทางการทูต ของประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น มีมานานกว่า 600 ปี เคยมีบันทึกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นว่ามีการค้าขายอย่างผูกขาดกับเมืองกรุงศรีอยุธยา
สำหรับสินค้าเกษตร ที่มีการค้าขายมาแต่อดีตได้แก่ ไม้ป่า พริกไทย ฝอยทอง ข้าว ไก้บ้าน”
กิจกรรมเรียนรู้ด้านการเกษตรและสานสัมพันธ์ (ACE Trip #2) ในครั้งนี้ ยังได้พบปะเกษตรกรในจังหวัดฟูกูโอกะ เยี่ยมชมพร้อมชิมผลไม้ตามฤดูกาลจากสวนผลไม้ขึ้นชื่อ ของจังหวัดคุมาโมโตะ
และพลาดไม่ได้กับการเยี่ยมชมปราสาทคุมาโมโตะ (หนึ่งในปราสาทที่แข็งแกร่งที่สุด และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น)
วันนี้เปิดตัวกับ วกส. Talk ทั้งสองท่านที่จะมาเล่าประสบการณ์ของตนเองหรือสิ่งที่น่าสนใจในภาคการเกษตรให้เพื่อนๆได้ฟัง ซึ่งเป็นประโยชน์และให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ระหว่างผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อไปพัฒนาต่อในภาคการเกษตร
สำหรับ วกส.Talk ท่านแรกวันนี้ พบกับ
นายแพทย์นพพร ชื่นกลิ่น (ตัวแทนกลุ่มนาคราช)
ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
มาในหัวข้อ “ชวนคุย เรื่องโรคระบาด”
และ วกส.Talk ท่านที่ 2 พบกับ
พลเอกธวัชชัย ชวนสมบูรณ์ (ตัวแทนกลุ่มสีหราช)
ที่ปรึกษาผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
มาในหัวข้อ “การรถไฟแห่งประเทศไทยกับการพัฒนาประเทศในอนาคต”
ในช่วงที่ 2 จะได้เรียนรู้ไปกับวิทยากรทั้ง 2 ท่านที่จะมาให้ความรู้
พบกับท่านแรกในหัวข้อการบรรยาย
“เกษตรสมัยใหม่ เกษตรทันสมัย ขับเคลื่อนอย่างไรในภาคเอกชน”
โดย นายอลงกรณ์ พลบุตร
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
“ถีงเวลาที่ประเทศไทยต้องสร้างระบบเศรษฐกิจของตัวเอง
Bio Economy พื้นฐานการเกษตรและความหลากหลายทางชีวภาพ
Creative Economy เกษตรมูลค่าสูง เพื่อยกระดับรายได้ของประเทศ
Social Economy การเดินหน้าธุรกิจเพื่อสังคม เศรษฐกิจพอเพียง
Digital Economy การเกิดโลกไร้พรมแดนที่เชื่อมโยงถึงกันหมดเป็นโครงสร้างพื้นฐาน”
และวิทยากรท่านสุดท้ายที่จะมาในหัวข้อการบรรยาย
“หลักกสิกรรมธรรมชาติ กับการเติบโตอย่างยั่งยืน”
โดย ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร
อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ประธานสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง
ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
“การเกษตร คือ พื้นฐานที่สร้างความยั่งยืนได้ดีที่สุด เพราะเกษตรเป็นพื้นฐานของ “ความมั่นคงทางอาหาร” ประเทศไทยเป็น 1 ใน 6 ของโลกที่มีศักยภาพของเกษตรกรายย่อยที่สามารถเป็นแหล่งผลิตและกระจายอาหารไปทั่วโลก ทั้งอาหารจาการเกษตรและประมง”
วันนี้เปิดตัวกับ วกส. Talk ทั้งสองท่านที่จะมาเล่าประสบการณ์ของตนเองหรือสิ่งที่น่าสนใจในภาคการเกษตรให้เพื่อนๆได้ฟัง ซึ่งเป็นประโยชน์และให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ระหว่างผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อไปพัฒนาต่อในภาคการเกษตร
กับหัวข้อ
“สรตักสวรรยา สัจสร้าง” โดย
วกส. Talk #1 : คุณโอ๊ค ปารณ ชาตกุล (ตัวแทนกลุ่มพระพิรุณ)
ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้บริหารบริษัท ยักษ์เขียว จำกัด
และ วกส. Talk #2 : คุณหญิง จันทร์ศรี (ตัวแทนกลุ่มวายุภักษ์)
กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอล วิชั่น เฮ้าส์ จำกัด
มาในหัวข้อ “Food for Longevity”
วันนี้จะได้พบกับวิทยากรท่านแรก
คุณวิพัตรา โตเต็มโชคชัยการ
นักวิจัยด้านการคาดการณ์อนาคตอาวุโส
ศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา FutureTales Lab by MQDC
มาในหัวข้อการบรรยาย “Foresight : อนาคตของประเทศไทยในปี 2030 และอนาคตของโลกในปี 2060”
“เพราะอะไรเราถึงต้องคิดถึงเรื่องเกี่ยวกับอนาคต ในอนาคตมันจะยิ่งมี Challenges ในเรื่องความท้าทายเยอะมากๆ อันนี้เป็นเพียงรูปของ 15 Global Challenges ที่ว่าในอนาคต ผู้คนทั่วโลกจะต้องเจอกับอะไร แต่ความท้าทายนั้นยังไม่เพียงพอ นอกเหนือจาก Many Challenges มันยังมี Many Uncertainties ทุกท่านเวลาทำอะไรเกี่ยวกับอนาคต อย่าดูแค่ว่า เทรนเกี่ยวกับเรื่องอาหาร จะเป็นอย่างไร เทรนเกี่ยวกับเรื่องของเกษตรจะเป็นอย่างไร เพราะว่าเทรน มันคือเรื่องของแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น แต่สิ่งที่ทุกท่านจะต้องทำในอนาคตด้วยก็คือการมองความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้น”
และวิทยากรท่านต่อไป
คุณเชิดชาย ปิติวัชรากุล
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่
บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน)
(East water Group)
มาในหัวข้อการบรรยาย “Water Security for the Nation ความมั่นคงทางน้ำกับการพัฒนาประเทศ”
“ความมั่นคงของการที่เรามีน้ำอย่างเพียงพอ ที่ดำเนินกิจกรรมต่างๆทั้งเรื่องในแง่ปัจจัย 4 แล้วในเรื่องของปัจจัยในเรื่องของการผลิตทั้งการเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม อันนี้ก็จะเป็นส่วนที่ เราในถานะที่เป็นหัวข้อใหญ่ ที่การพัฒนาประเทศจะเกิดขึ้นได้อยาก ถ้าความมั่นคงเรื่องน้ำ หรือน้ำไม่ถึงเพียงพอ จะเห็นว่านำ้คือต้นทุนที่ ถูกกว่า พลังงาน แต่น้ำมีส่วนที่สำคัญแรกๆ ที่จะต้องมี เพื่อจะทำให้เกิดพลวัต ในการพัฒนาธุรกิจต่อไป”
ช่วงที่สองจะได้พบกับวิทยากรอีกสองท่านที่จะมาบรรยายในหัวข้อ “การแปรรูปสมุนไพร หัวใจในการสร้างมูลค่าเพิ่ม”
โดยท่านแรก
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร
เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
“คือสมุนไพรนี้มีเสน่ห์ ไม่ต้องทำให้เป็นนาโน ก็สามารถที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มได้”
และท่านที่สอง
ภก.ฉัตรชัย พานิชศุภภรณ์
ผู้อำนวยการกองผลิตภัณฑ์สมุนไพร
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
“การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ และอุตสาหกรรมสมุนไพรตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าท่านได้ raw material ที่ดี กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ที่เป็นไปตาม GMP เป็นไปตามมาตรฐาน ตามที่กฎหมายกำหนด สุดท้ายสินค้าที่ส่งออกสู่ท้องตลาดไปสู่กระบวนการปลายทางที่ให้กระทรวงพาณิช ในการช่วยดูแลหรือขับเคลื่อนช่วยกระจายสินค้า ค่อนข้างชัดเจน ในขณะเดียวกันระบบนิเวศ หน่วยราชการต่างๆ ต้องปรับปรุงระบบนิเวศ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบ พัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้มีประสิทธิภาพและก็ยั่งยืน”
CPF โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ จังหวัดนครราชสีมา วีดีทัศน์ครบรอบ 100 ปี เครือเจริญโภคภัณฑ์ เริ่มต้นจากผลิตเมล็ดภัณฑ์บรรจุกระป๋อง “เจียไต๋” โลกที่เสียงเรียกของความอดอยากหายไป คืนดีกับธรรมชาติ ปัญญาโอบกอดมนุษย์ โรคภัยที่ไม่ถามหา แตกสู่ 8 ธุรกิจ ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ด้านอาหารตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงอาหารพร้อมทาน เทคโนโลยีนวัตกรรม วิทยาศาสตร์ครอบคลุม อนาคตจะเชื่อมต่อเมือง พัฒนาสุขภาพการแพทย์และอาหารเพื่อสุขภาพในแต่ละวัย เศรษฐกิจดิจิทัล และวิเคราะห์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ ขณะหลับคิดว่าโลกในอีก 100 ปีข้างหน้าจะขาดอะไร … ขณะตื่นเราคิดว่าเราจะฝันอะไร
วันนี้จะได้รับฟังบรรยายจากทีมคณะผู้บริหาร บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน)
ช่วงแรกจะได้พบกับ
คุณเรวัติ หทัยสัตยพงศ์
รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย)
ให้การบรรยาย ณ โรงงานผลิตอาหารสัตว์
“ในอดีตเราเลี้ยงสัตว์ป่า สเกลของการเลี้ยงสัตว์ยังไม่ใหญ่ อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ไม่มี แต่วันนี้โลกมันเปลี่ยน มันมีเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาในเมืองไทย ฉนั้นเราต้องติดตามการใช้อุปกรณ์ ต้องติดตามเรื่องของเทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งวันนี้เราบอกว่า เทคโนโลยี 4.0 เราเลี้ยงสัตว์ ผมคิดว่า เราต้องมีเทคโนโลยี 4.0 เข้าไป ซึ่งเราเรียกว่า สมาร์ทฟาร์ม ฉะนั้นเราใช้เรื่องของ Big data เราใช้เรื่องของ AI เราใช้เรื่องของ IOT ต่างๆ อันนี้ก็จะฝากคิดว่า มันเป็นเรื่องใหม่ที่เราจะต้องรู้กับมันอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งสำคัญอีกส่วนหนึ่งก็คือ การเลี้ยงอยู่ในปศุสัตว์ นั้นเป็นต้นน้ำ ฉะนั้นสิ่งที่จะดีที่สุดก็คือ ทำให้ผู้บริโภคพอใจกับสินค้าของเนื้อสัตว์ ผมคิดว่านักสัตวบาลต้องมีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค หมายถึงว่า ผลิตสินค้าต้องสะอาดและปลอดภัย และสุดท้ายต้อง ผมคิดว่าความยั่งยืน มันเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องชุมชน สังคม พยายามที่จะดูแลสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อมให้ดี…”
และวิทยากรท่านต่อไป
คุณสิริพงศ์ อรุณรัตนา
ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจสัตว์บก
ให้การบรรยาย ณ โรงงานแปรรูปไก่
“ซีพีเอฟได้ส่งมอบและสื่อสารทำความเข้าใจกับกลุ่มคู่ค้าธุรกิจและซัพพลายเออร์ เรื่อง นโยบายด้านการจัดหาอย่างยั่งยืนและแนวปฏิบัติสำหรับคู่ค้าธุรกิจ Sustainable Sourcing Policy and Supplier Guiding Principle อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 โดยทุกๆ ปี บริษัทฯ ได้จัดสัมมนาเพิ่มองค์ความรู้และความเข้าใจในประเด็นด้านการบริหารจัดการแรงงานขององค์กร พร้อมทั้งดำเนินการตรวจประเมินด้านความยั่งยืนของคู่ค้าธุรกิจ เพื่อที่จะร่วมช่วยคู่ค้าปรับปรุงหรือพัฒนาการดำเนินงานของคู่ค้าให้สามารถดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืนของซีพีเอฟ สอดคล้องตามหลักการสากล“
ช่วงแรกของวันนี้เริ่มต้นด้วย วกส. Talk ที่จะมาแชร์สิ่งที่น่าสนใจ นำทีมโดย
วกส. Talk #1 : คุณจุ๋ม ผศ.ดร.ฐิตารีย์ ไตรสรณปัญญา (ตัวแทนจากกลุ่มพระพิรุณ)
คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ที่มาในหัวข้อ “บัลดาลแรงสู่ธุรกิจเกษตร”
วกส. Talk #2 : คุณยู ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ (ตัวแทนจากกลุ่มมังกร)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน)
มาในหัวข้อ “Wellness & Anti-Aging Innovation”
วันนี้จะได้พบกับวิทยากร ผู้ที่สามารถปั้นธุรกิจที่ซบเซา ให้กลายเป็นธุรกิจหมื่นล้านได้ และเขาก็ทำได้จริงมาแล้ว การปั้นสินค้าเกษตรให้เป็นโอกาสกับโลกดิจิทัลในปัจจุบันและอนาคต กับหัวข้อการบรรยาย “โอกาสของสินค้าเกษตรไทย กับโลกดิจิทัล ในปัจจุบันและอนาคต”
คุณวรวุฒิ อุ่นใจ
ผู้ก่อตั้ง officemate และอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน)
“จริงๆถ้าพูดถึงเศษฐกิจ ผมมักจะนึกถึงคำว่า GDP ขึ้นมาเสมอเลยในเวลาที่เราจะมองว่าเศษฐกิจดี เศษฐกิจไม่ดี ผมไม่มองแค่คำว่าเศษฐกิจ แต่ผมจะแตกเศษฐกิจ เป็นองค์ประกอบของ GDP”
ช่วงต่อไปพบกับวิทยากรที่เป็นระดับผู้บริหาร และพิธีกรระดับประเทศในด้านดิจิทัล เพื่อเปิดมุมมองการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในภาคเกษตร
คุณณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์
ประธานกรรมการ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด
มาในหัวข้อ “How TRUE digital drive innovation for our country.”
“ผมอยากจะเริ่มด้วยเทรนหลักๆ 5 อัน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด มันมีเทรนเยอะกว่านี้เยอะ แต่ 5 อันนี้เกี่ยวข้องกับพวกเราโดยตรง ณ วันนี้ และก็ในอนาคตอันใกล้นี้ 5 เทรนนี้ก็จะชัดขึ้นเรื่อยๆ อันแรกเลยที่ผมว่าเกี่ยวข้องมากเลยคือ IOS Internet of things อันที่ 2 ก็คือ AI ผมใช้คำว่า Applied AI ผมอยากจะโฟกัสกับสิ่งที่มีผลกับเราโดยตรงมากขึ้น official telligen อันที่ 3 ก็คือ Blockchains 4 คือ Metaverse ผมจะเข้าไปในรายละเอียดอย่างละนิดนะครับ แล้วก็ต่อด้วยที่ True ทำโดยตรงด้วย อันสุดท้ายก็คือ Robotics ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับ Automation ต่างๆ ในฟาร์ม ในระบบทางการเกษตรด้วย ”
การฝึกอบรมในวันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2565 ซึ่งเป็นการจัดอบรมเป็นครั้งที่ 10
โดยในช่วงแรกจะเป็นช่วง วกส. Talk มาแชร์สิ่งที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ของตนเองหรือสิ่งที่น่าสนใจในภาคการเกษตรให้เพื่อนๆได้ฟัง ซึ่งเป็นประโยชน์และให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ระหว่างผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อไปพัฒนาต่อในภาคการเกษตร
นำโดย คุณโต้ง ทวีพงศ์ สุธรรมพันธุ์ (ตัวแทนจากกลุ่มเอราวัณ)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พาวเวอร์ อโกรเทค (ประเทศไทย) จำกัด
มาในหัวข้อ “อุตสาหกรรมโดรนเกษตรในประเทศไทย”
และท่านที่ 2 คุณเบ็น รัฐชทรัพย์ นิชิด้า (ตัวแทนจากกลุ่มพญาหงส์)
คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
มาในหัวข้อ “วิกฤตอาหารโลก”
วันนี้จะได้พบกับวิทยากรท่านแรก ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง e-Commerce ของหลายๆ แบรนด์
ที่จะทำให้เปิดมุมมองการตลาดได้กว้างขึ้นและไปไกลสู่อนาคต
คุณกุลธิรัตน์ ภควัชร์ไกรเลิศ
นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย (THECA),
ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Thailand e-Business Center (TeC),
อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แบรนด์ และพันธมิตรธุรกิจแห่ง Lazada
มาในหัวข้อบรรยาย “e-Commerce กับภาคการเกษตรไทย Get insight from China growth hacking สู่การพัฒนาประเทศไทย”
“หัวใจของ digital economy มีจุดเด่นของแต่ละที่เป็นของตัวเองในด้านต่างๆเช่นอุตสาหกรรมเกษตร
Alibaba มองตัวเองเป็นบริษัทด้าน Ai ผลิตอะไรที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่สุดต้องการช่วยให้มดตัวเล็กสู้กับช้างได้
e-commerce ecosystem สร้างเทศกาลแห่งการซื้อของขึ้นมาเป็นกระแสระดับโลกอย่าง 11.11 12.12”
และพบกับไฮไลท์ของวันนี้ วิทยากรมากความสามารถทั้งในด้านนิติศาสตร์ เรื่องกฎหมาย เรื่องวัฒนธรรม และเรื่องเทคโนโลยี
คุณสุรางคณา วายุภาพ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท บีเทค เทคคอมพานี จำกัด
กับหัวข้อบรรยาย “ปลดล็อกกฎหมายภาคเกษตรโอกาสอุปสรรคความท้าทายทำอย่างไรเกษตรกรไทยจึงเติบโต”
“ถ้าเราคิดว่าเราเป็นประเทศส่งออกรายได้จากการเกษตรกรรมมันมีเยอะมากเลยก็ต้องนึกถึงกฎหมาย 2 กลุ่มกฏหมายของประเทศต้นทางคือประเทศเราเองกับประเทศปลายทางว่ากติกาของเขามีอะไรบ้างสิ่งที่ยากที่สุดในวันนี้คือว่าประเทศปลายทางจะกำหนดกฎกติกามากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็น Non-tariff barriers ขึ้นมาเป็นเงื่อนไขในการส่งสินค้าไปส่งในประเทศเขาซึ่งอันนี้เป็นนโยบายของประเทศเขาเลยเช่นญี่ปุ่นอาจจะกำหนดแบบหนึ่งอเมริกาอาจจะกำหนดแบบหนึ่งประเด็นคือถ้าไม่ใช่บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีประสบการณ์มากพอและมีความชัดเจนกับเรื่องนี้พอมันยากมากสำหรับเกษตรกรไทยที่จะรู้ล่วงหน้าเพราะมันจะกลายเป็นว่าถ้าเราไม่สนใจเรื่องนี้เท่ากับว่าเราส่งของไปโดยที่ปลายทางเป็นคนตัดสินใจว่าเข้าได้หรือเปล่าหรือต้องกักกันสินค้านั้นไว้ก่อนเป็นต้น”
Copyrights ® 2021 All Rights Reserved www.duraincorp.com and the Ministry of Agriculture and Cooperatives, jointly and severally. This program has been created by DURIAN CORP with strong experience in startup scene both in Thailand and abroad.
Recent Comments